"ยังมีเหตุบ้านการเรือน มากมาย รวมทั้งนายกฯกับคนที่นี้อยากขับขาน ของานเเล้วยังไม่ได้ ช่วยราชการการเพื่อสักศักดิ์ศรี เเล้วก็ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักมากมาย ผมไม่มีบุญขนาดทิ้งบ้านเมืองไม่ต้องขอพบพระองค์ท่าน ตอนออกสื่อหรอกครับ ยังเหลือเเม่เเละความตายรอผมอยู่ที่นี้ นปช ไม่มา สนธิไม่มา ผู้ตรวจการมา พระราชวงค์ไม่มา ทีวีไม่มา สส.ไม่มา ต้องช่วยดูกันอีกครั้งจะทำกันยังไง" พ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียน เทศบาล เองออกทีวีก็โดนชะหน่อย ไม่ต้องตามชนตามถนน ในบ้าน
รอคนที่สู้ชีวิตให้อยู่ต่อไป
เมื่อเราทั้งหลายหวนรำรึกถึงเหตุการณ์ได้ที่ผ่านมา ท่านได้รักเเละเรียกร้องยัดยืน สิทธิเสรีภาพเเละความเป็นธรรมเพื่อปวงชน
ร้อยป่าสยามนิมิต ร้อยป่าสยามนิมิต
วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559
เพลงเขียงยืนที่เราสุขใจ..+++งานของดีวันเขียงยืน59.
....ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่เจ้าต้องการได้ แม้เจ้าจะพยายามแก้ไข ด้วยการใช้ศาสดาสร้างศาสดาต่างๆขึ้นมา นั้นยิ่งทำให้มนุษย์สับสน ยึดติดจะลุ้มหลงจนเห็น คนที่นับถือต่างศาสนาเป็นศัตรู รุ่นต้องรบราฆ่าฟันกันไม่มีวันจบสิ้น ยิ่งเจ้าเข้าควบคุม มันก็ยิ่งก่อให้เกิดความผิดพลาดอันมหันต์ มากขึ้นเป็นเงาตามตัว เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าทำให้มนุษย์เข้าใจผิดคิดว่า ยังมี ระบบการปกครองหรือกฎหมายอื่นๆ อีกนับหมื่นนับแสนฉบับ มันเป็นภาพลวงตาที่เจ้าสร้างขึ้น เพราะถึงอย่างไรมนุษย์ก็ไม่อาจเดินออกไปให้พ้นจาก วัฏสงสาร กงจักรดอกบัว เจ้ากำลังเห็นชีวิตเหล่านั้นเป็นเครื่องเล่น สุดท้ายแล้วด้วยจิตวิญญาณที่ถูกสร้าง ไม่สมบูรณ์ และเคลือบด้วยกิเลสตัณหาเช่นนี้ มนุษย์ก็จะทำลายตัวของเขาเอง ในอีกไม่ช้า นั่นก็หมายความว่าความประพฤติ หรืองานที่เจ้าได้สร้างขึ้นนั้นจบลง ด้วยความสูญเปล่า ....
******************************************
งานของดีเมืองเชียงยืน เมื่อไรเดือนมีนาคม 59 เดินไปด้วยรถจากห้างร้านต่างๆที่จัดเข้าร่วมขบวน หลายร้านก็ทำเป็นซุ้มเป็นสินค้าขึ้นชื่ออยากจะให้ขึ้นชื่อเป็นที่รู้จักในตำบลและคนที่มาท่องเที่ยวงานของดีวันเชียงยืนเขาจัดอย่างนี้ทุกปีโดยให้ ประชาชนใน หมู่บ้านตำบลต่างๆเข้าร่วมกิจกรรม ก็เป็นเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมาก็คือ ความคึกครื้น แต่ปีนี้ดูเศร้าเศร้าเพราะใน ขบวนหลายกลุ่มหลายคนที่ คคละเค้ากัน ใน งานวันนั้น ก็พูดถึง น้าสุมาลัย ติดคุก ผมได้ยินจากคนที่ใส่เสื้อลาย ดอกภาคิน การ์เม้นท์ ก็ทำให้นึกขึ้นได้ทันทีว่าดอกไม้ไม่สวยหรืออย่างไร จะดูไปแล้วในโรงเรียนบ้านเชียงยืน ก็เต็มไปด้วยกระบวนแล้วก็เสียงกลองยาวกลับ พิณอีสาน ความประทับใจก็คือวันนั้นไปเจอหลานอาจารย์ที่โรงเรียนขอนแก่นวิทย์เคยสอนวิชาสังคมศาสตร์อาจารย์ชื่อโกวิท ก็เลยทักหลานอาจารย์บนรถเมล์เพราะว่านั่งมาพร้อมกันร้านอาจารย์โกวิทก็เรียนที่โรงเรียน มหาไถ่ศึกษา ตอนแรกจะพูดว่า โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาเคยเข้าร่วมการประกวดวงโยธวาทิตเมโลเดียน ของ สยาม การดนตรี แห่งประเทศไทย เป็นรายการหนึ่งที่โรงเรียนมหาไถ่ชนะเลิศเป็น ที่ 1 ครั้งแรกของภาคอีสาน แล้วก็ได้สิทธิ์ไปแข่งขัน เอาวงเมโลเดียน ที่ ประเทศสิงคโปร์แล้วก็ได้แชมป์มา ซึ่งความโศกเศร้าของ การเล่นดนตรี ในลาวประมาณปี 2548 นั้นถือว่าวงดนตรีภาคอีสานไม่ได้เข้าร่วมประกวดเท่ากับโรงเรียนจากภาคกลาง แต่อย่างไรก็ดี ก็ทำให้นึกถึงอาจารย์โกวิทขึ้นมาอาจารย์เป็นคนเข้าหาลูกศิษย์แล้วก็ทักทายลูกศิษย์ แม้ว่า อาจารย์จะไม่เข้าใจคำพูดของคนวัยรุ่นแต่อาจารย์ ก็ไม่เคยสามารถดูเห็นลูกศิษย์ว่าเป็นบ้า อาจารย์เชื่อว่าพ่อแม่ต้องมีราชการช่วยเหลือได้ และก่อนที่ผมจะไม่รู้จักครูสอนชั้นม. ต้นอีกเลยเพราะว่า มัวแต่เรียนชั้นมอปลายผมเห็นอาจารย์โกวิทย์ครั้งสุดท้าย มีน้ำใจที่สุดมากกว่าครูในโรงเรียน 225 คนทั้งหมดเสียอีกอาจารย์โกวิทย์เป็นคนหนึ่งนอกจากอาจารย์เดชาเทศแก้ว ที่ถามว่า น้องสาวสบายดีหรือเปล่าเรียนต่อที่ไหน เพราะว่านอกจากอาจารย์เดชาแล้วก็มีอาจารย์โกวิทที่เป็นห่วงน้องสาวผมว่าอาจารย์ เคยเป็นครูประจำชั้นลูกหลานท่านขุน วันนั้นบนรถเมย์ผมได้อีก 8 ระลึกถึงอาจารย์ว่าถ้าอาจารย์ยังสอนอยู่ก็ขอให้ประสบแต่ความสำเร็จในการ เรียน ในการทำงานแล้วก็หาเลี้ยงโดยสารโดยเฉพาะการชำระหนี้กยศ. อันไม่มีวี่แววว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)