รอคนที่สู้ชีวิตให้อยู่ต่อไป





มื่อเราทั้งหลายหวนรำรึกถึงเหตุการณ์ได้ที่ผ่านมา ท่านได้รักเเละเรียกร้องยัดยืน สิทธิเสรีภาพเเละความเป็นธรรมเพื่อปวงชน




ร้อยป่าสยามนิมิต ร้อยป่าสยามนิมิต

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562

รัฐบาลกับเเนวคิดบวชทหาร​

โอเค​ ชายแดนใต้ที่ปลายเหตุ 23 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09:34 น.
                         

  23 ม.ค. 62 - นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอร์รัปชัน โพสต์ถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหาร(ผบ.ทบ.) มีแนวคิดต้องการรับสมัครทหารสมัครใจ​บวช
    กระจายตามวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เอาทหารขนส่ง มาเป็นผบ.ทบ. ก็อย่างนี้แหละ จะให้พระถือปืนยิงโจรได้ พระก็ปาราชิกกันหมดวัด  ไม่ได้เรียนรู้พระธรรมวินัยของพระสงฆ์กันเสียเลย แก้กันปลายเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุแท้จริงของปัญหา"



ท่านทรงมีพระบรมราโชวาทเเล้วดังนี้




เสียภาษี​ ครับ​ เเต่เคยจบวิชาทหาร​ ปัญหาความเกลียดราชการ​ เหมือนกันเลยครับ​ 
 ตอนนี้... หนี้ต่างหากคเเก้ปัญหาได้
ผมเมื่อ9ปีที่เเล้ว​กับ​ ส.ส.ในพื้นที่​                        
มีปัญหาของกองทุนเพื่อการศึกษา​                  เเละ ปัญหาความเหลื่อมล่ำทางสังคม​           บ้านผม​เน้นวางยา..รังเเกนอนใหลตาย​
 มียาเเก้ได้ครับ​ นอน2ชั่วโมงขึ้นไป​
รัปทานยาแก้ปวด​ งดอาหาร2วัน
ตำรายามหาวิเศษ

ต้นเหงือกปลาหมอ หรือบางคนเรียกว่า ต้นหนามหมอ เอา 2 ส่วนตากเเห้ง พริกไทย 1 ส่วนรวมเข้ากันบดเป็นผงละเอียดละลายน้ำผึ้งรวงดี ทำเป็นลูกกลอน กินวันละ 3 เมล็ดเท่าเมล็ดพุดทรา กินเป็นประจำทุกวันเป็นยาอายุวัฒนะมีคุณดังนี้ 

กินยา 1 เดือน เกิดมีสติปัญญาดี               
กินยา 2 เดือน ราศรีงามเป็นที่พอใจมนุษย์ 
กินยา 3 เดือน ริดสีดวง 12 พวกหาย         
กินยา 4 เดือน กองลม 12 จำพวกเเละความดันโลหิตไม่มีขั้นเลยผู้ที่เป็น                               
              อยู่เเล้วก็เเก้ได้
กินยา 5 เดือน โรคโรคาในกายไม่มีเลย         
กินยา 6 เดือน เดินทางวันละโยชน์ก็ไม่เหนื่อย
กินยา 7 เดือน เลือดลมในร่างกายบริบูรณ์     
กินยา 8 เดือน​ ทำลายกองเสมหะเสียงไพเราะดี 
กินยา 9 เดือน คงกระพันเเก่อาวุธทุกประการ 

ต้นตำรายานี้ได้จากผู้พบลายเเทงจันหวัดพิษณุโลกนำถวายกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ให้ปู่ ของอาจารย์อนันต์ คณานุรักษ์ คัดเขียน มาตามคำอุทิศของพระฤาษี เจ้าของยาที่ให้ไว้เป็นทานเเก่ชวงชน อาจารย์อนันต์ คณานุรักษ์ ทดลองทำกินอยู่ 2 เดือนปรากกฏว่าดีจริง ต่อมาได้เผยเเพร่ให้เพื่อนลองใช้ดู ปรากฏว่ามีสรรพคุณเป็นที่พอใจมาก  ท่านจึงเขียนเป็นตำราตามเจตนาของเจ้าของยา 

สูตรยานี้ได้มาจากตำรา ไสยศาสตร์  ขาดตกบกพร่องอย่างไร ทักท่วงได้นะครับ หรือใครทราบใครรู้ ช่วย เติมเเต่งเพิ่มเต็มด้วยนะคะจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเเก่เพื่อมนุษย์ด้วยกัน           

วิทยาทานนี้ข้าพเจ้าขอมอบให้เเด่
คุณครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เเก่เข้าพเจ้า
คุณบิดา มารดา ของข้าพเจ้า
ผุ้เลี้ยงผู้รักษาของข้าพเจ้า
เจ้าของคาถานี้เเละที่เคยครอบครองคาถานี้ทุกตน
จงถึงเเก่เขาเหล่านั้นด้วยเถิด
เเละขอให้ข้าพเจ้าได้เจอะเจอพระคาถาเหล่านี้
ได้ใช้พระคาถาเหล่านี้อีกด้วยเถิด

ท่านให้เป็นวิทยา​ท่านสิบทิศ​
ขอขอบคุณภาพจาก Google

กำลังดังตอนนี้



เรื่องย่อละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง
        เรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มผู้มีนามว่า ทองเอก (มาริโอ้ มาเร่อ) ในสมัยรัชกาลที่ 5 กับบทบาทการเป็นหมอยาโบราณสายพันธุ์ใหม่ที่ต้องฝ่าฟันกับความเชื่อ ศรัทธา ไสยศาสตร์ และ ชบา(คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมสิริ) สาวรูปงามเปี่ยมด้วยความสามารถ เก่งกาจด้านการต่อสู้ ผิดไปจากคนในยุคสมัยนั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเมื่อทั้งคู่โคจรมาพบกัน ติดตามความชุลมุน อลเวงพร้อมเสียงฮาได้ในละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3 เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2562




เพื่อนบ้านทุกท่านในเวลานอนครับ​เเละมีปัญหา​                                                   
   เวลาเมื่อมีปัญหาครับ​ ได้เวลาตื่นตอนเา5:30 น.ค่อยพูดสนทนา​ตามนิสัยมารยาทนี้
ขอรายงานเเละทำตามนี้กับญาติเเละคนในบ้าน
🎈
หนึ่งในทักษะของการเป็นโค้ช คือการรับฟัง ซึ่งตรงกับชาร์ทนี้ ตั้งใจฟัง จับประเด็น จับความรู้สึกให้ได้ ถามกลับและรับฟัง ยอมรับและให้กำลังใจ เสนอวิธีคิดให้ลูกตัดสินใจเอง 🎈

พ่อแม่ทุกคนทำเช่นนี้ก็สามารถเป็นโค้ชที่ดีได้แน่นอนครับ
🎈
ขอบคุณภาพจาก หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก ครับ


@@ ช่วงเวลา นาฬิกาชีวิต และคำแนะนำ @@

🚑ห้ามรบกวน​ ห้ามมาบ่น​ ก้ามมาช้วดล้วดอาหาร

06:00 : หกโมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายตื่นตัวที่สุด

07:00 : เหมาะสำหรับเป็นเวลาอาหารเช้า ระบบการย่อยอาหารจะทำงานได้ดีที่สุด สารอาหารแร่ธาตุและวิตามิน ต่างๆ จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างสมบูรณ์

08:00 : เป็นช่วงเวลาที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวบ่อยที่สุดเพราะเลือดในร่างกายเข้มข้น เลือดมีโอกาสจับตัวอุดตัน จนเกิดอันตราย จึงควรฝึกทำสมาธิ นับลมหายใจ หรือฟังเพลง เลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียด

09:00 : สมองส่วนความจำจะทำงานได้ดีมากในช่วงนี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องจำมากที่สุด

10:00 : ถ้าเป็นไปได้ ควรนัดเจรจาเรื่องสัญญา การพูดจาระหว่างการสนทนาจะออกมาเป็นจุดเด่นในช่วงนี้

11:00 : ร่างกายในช่วงที่สามารถให้ประสิทธิภาพได้สูงสุด หัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิตทำงานได้เต็มที่ช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งมาราธอนหรือต่อสู้กับสภาพของงาน มนุษย์จะทำได้ดีที่สุด

12:00 : สมาธิเริ่มแย่ อุบัติเหตุในการทำงานจะเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่หยุดพักจะทำให้เกิดความเสียหาย

13:00 : กระเพาะอาหารเตรียมทำงานด้วยการหลั่งกรดออกมา ต้องหาอะไรกินให้ได้ ไม่งั้นจะเสี่ยงต่อ โรคกระเพาะอาหาร

14:00 : เป็นช่วงที่สมองซีกศิลปะทำงาน เหมาะสำหรับการคิดสร้างสรรค์ หรือทำงานฝีมือ งานอดิเรก

15:00 : พลังงานแห่งการทำงานกลับมาอีกครั้ง ความจำขึ้นถึงสูงสุดอีกครั้ง ช่วงนี้น่าจะหาโอกาสเข้าพบเจ้านายเพื่อขึ้นเงินเดือนได้ ในช่วงนี้จิตใจจะไม่กลัวการเผชิญหน้าใดๆ

16:00 : มนุษย์จะทนต่อความเจ็บปวดได้ดีที่สุดในชั่วโมงนี้ ถ้าจะไปทำฟันก็เลือกประมาณนี้ ถ้าทำได้ยาชาหนึ่งเข็ม จะมีผลพอๆ กับการได้รับ 3 เข็มเลยทีเดียว

17:00 : แรงดันและการไหลเวียนของโลหิตจะเคลื่อนไหวได้ดีมาก เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาออกกำลังกาย กล้ามเนื้ออยู่ในช่วงที่แข็งแรงที่สุด และเมื่อได้ฝึกอย่างถูกวิธี ก็จะเกิดความแข็งแรงรวดเร็วมาก

18:00 : ช่วงนี้ผู้คนจะเหนื่อยเพลียและขาดสมาธิมากกว่าช่วงเวลาชั่วโมงอื่นๆ เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่สุด ต้องใช้ความระวังขณะขับรถอยู่บนถนน

19:00 : สมองได้รับเลือดหล่อเลี้ยงมาก เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะสามารถแก้ไขให้ลุล่วงดีได้เร็วมาก

20:00 : เริ่มสดชื่นหลังการพักผ่อนที่ต้องกรำงานตลอดทั้งวัน จึงเป็นช่วงดีสำหรับการพบปะสังสรรค์ ใครที่อยากจะบอกรัก ขอใครแต่งงานควรจะทำในชั่วโมงนี้ โอกาสประสบความสำเร็จมีมากที่สุด

21:00 : กระเพาะอาหารจะหยุดทำงานพอถึงช่วงเวลานี้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารหนัก เพราะไม่เช่นนั้น  ก็จะไปสะสมค้างในกระเพาะเกิดผลเสียหายตามมา

22:00 : ความดันโลหิตจะลดลงพร้อมๆ กับอุณหภูมิของร่างกายที่ต่ำลง การนอนหลับก่อนเที่ยงคืนเป็นการหลับที่สนิท และช่วยให้การพักผ่อนอย่างเต็มที่มากกว่าช่วงอื่น

23:00 : สมองทำงานน้อยลง ถ้าดูหนังสือช่วงนี้วันต่อไปก็จะจำไม่ได้เป็นส่วนใหญ่ ควรนอนหลับพักผ่อนดีที่สุด

24:00 : ใครที่ยังไม่หลับควรให้โอกาสนี้สำหรับการสร้างสรรค์ จะเป็นงานเขียน วาดรูป หรือแต่งเพลง ล้วนเป็นช่วงเวลาที่วิเศษทั้งสิ้น เพราะสมองปลอดโปร่งคิดโน่นคิดนี่ได้ดีที่สุด
    
01:00 : สมองเหนื่อยล้าถึงขีดสุด ร่างกายอยากพักผ่อนเต็มที่ แม้จะชาชินกับงานกลางคืนมาเป็นปี แต่พอเข้าชั่วโมงนี้จะรู้สึกว่าเหนื่อย เพลีย ง่วงที่สุด 1.00-3.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (Meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้ หน้าอ่อนกว่าวัย นอนจากร่างกายจะหลั่งมีราทินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endorphin) ออกมาด้วย จึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว

02:00 : ฮอร์โมนเมลาโตนินถูกขับออกมามาก ทำให้คนเราเลื่อนลอยเหนื่อยล้าและมีโอกาสคิดสั้นฆ่าตัวตายมากที่สุด ดังนั้น ควรเลี่ยงเรื่องเครียดๆ หรือคิดหาเหตุผล ถ้าไม่นอนก็ควรฟังเพลงสบายๆ ดูหนังตลกๆ

03:00 : ทุกอย่างในร่างกายแทบจะหยุดนิ่ง ร่างกายควรได้รับการพักผ่อนมากที่สุด

04:00 : ร่างกายเริ่มตื่นขึ้นมาทำงานอีก เพราะมีฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งใช้ต่อสู้กับความเครียดหลั่งออกมา คนเป็นโรคหืดหอบจะมีปัญหากับการหายใจ

05:00 : ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แก่ทั้งหลายควรตระเตรียมข้าวของให้พร้อมสำหรับชั่วโมงนี้ เพราะตามสถิติเด็กทารกจะคลอดออกมาลืมตาดูโลกระหว่างชั่วโมงนี้มากที่สุด




ขอบคุณที่มา  >> http://health.kapook.com/view1700.html

🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🐓🎵🎀
การเป็นพิษจากพาราเซตามอลเกิดจากการได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด[3] อาจเกิดจากการใช้ยาเกินขนาดในครั้งเดียวหรือใช้ยาสะสมต่อเนื่องก็ได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังได้รับยาเกินขนาด[1] บางรายอาจมีอาการแบบไม่จำเพาะ เช่น ปวดท้องเล็กน้อย หรือคลื่นไส้[1] หลังจากนั้นจะตามมาด้วยระยะที่ไม่มีอาการใดๆ ประมาณ 2-3 วัน ตามด้วยอาการของภาวะตับวาย ได้แก่ดีซ่าน การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ และเพ้อสับสน[1]ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ไตวาย ตับอ่อนอักเสบ น้ำตาลในเลือดต่ำและเลือดเป็นกรดจากแลกติก[1] ในกรณีผู้ป่วยไม่เสียชีวิตมักฟื้นตัวได้ในเวลา 2-3 สัปดาห์[1] หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการดีขึ้นได้เองในขณะที่บางรายจะเสียชีวิต[1]
การเป็นพิษจากพาราเซตามอล
Paracetamol poisoning
ชื่ออื่น
Acetaminophen toxicity, paracetamol toxicity, acetaminophen poisoning, paracetamol overdose, acetaminophen overdose, Tylenol toxicity
Paracetamol-skeletal.svg
พิษวิทยา
ระยะแรก: ไม่จำเพาะ, อ่อนเพลีย, ปวดท้องคลื่นไส้[1]
ระยะหลังตัวเหลืองการแข็งตัวของเลือดผิดปกติเพ้อสับสน[1]
ภาวะแทรกซ้อน
ไตวายตับอ่อนอักเสบน้ำตาลในเลือดต่ำเลือดเป็นกรดจากแลกติก.[1]
การตั้งต้น
เกิดภาวะเป็นพิษหลังได้รับยา 24 ชั่วโมง[2]
สาเหตุ
การได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด ส่วนใหญ่คือมากกว่า 7 กรัม[3][2]
ปัจจัยเสี่ยง
Alcoholismmalnutrition, certain other medications[2]
Blood levels at specific times following use[2]
Alcoholismviral hepatitisgastroenteritis[2]
การรักษา
Activated charcoalacetylcysteineliver transplant[2][1]
Death occurs in ~0.1%[2]
>100,000 per year (US)[2]
ภาวะนี้อาจเกิดจากการกินยาผิดขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเป็นการฆ่าตัวตายก็ได้[1]ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดพิษได้แก่การติดสุราการขาดสารอาหาร หรือการใช้ยาอื่นร่วมด้วย[2] พิษต่อตับที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากตัวยาพาราเซตามอลโดยตรง แต่เกิดจากสารเมตาบอไลต์ชื่อ NAPQI ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสร้างมาจากตัวยา[4] สารนี้จะลดปริมาณกลูตาไทโอนในตับ และทำลายเซลล์ตับได้โดยตรง[5] การวินิจฉัยทำได้โดยการซักประวัติเพื่อดูปริมาณยาที่รับเข้าสู่ร่างกาย ร่วมกับการตรวจระดับยาพาราเซตามอลในเลือดเทียบกับระยะเวลาหลังจากการรับยาเข้าสู่ร่างกาย[2] แพทย์มักอาศัยแผนภาพโนโมแกรมของรูแม็ค-แม็ธธิวเพื่อประเมินว่าระดับยาที่วัดได้ในเวลาที่ตรวจนั้นอยู่ในช่วงที่เป็นพิษหรือไม่ เพียงใด[2]
การรักษาอาจทำด้วยการให้ถ่านกัมมันต์หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในเวลาอันสั้นหลังรับยาเข้าสู่ร่างกาย[2] ปัจจุบันไม่แนะนำให้บังคับให้ผู้ป่วยอาเจียนเอายาออกมา[4] หากประเมินแล้วพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดพิษ แพทย์มักให้ยาอะซีติลซิสเตอีนเพื่อต้านพิษ[2] ซึ่งมักให้ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง[4] หลังจากฟื้นตัวแล้วผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการดูแลทางจิตเวชร่วมด้วย[2] ในบางรายหากมีอาการตับวายขั้นรุนแรงอาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ[1] ซึ่งข้อบ่งชี้ของการปลูกถ่ายตับมักดูจากความเป็นกรดของเลือด ค่าแลกเตตในเลือดที่สูง การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ หรือมีโรคสมองจากตับอย่างรุนแรง[1]หากได้รับการรักษาในระยะแรกจะมีโอกาสเกิดตับวายน้อยมาก[4] โดยรวมผู้ป่วยภาวะพิษจากพาราเซตามอลจะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.1%[2]
มีการบรรยายภาวะพิษจากพาราเซตามอลเป็นครั้งแรกในช่วงคริสตทศวรรษ 1960 อัตราการเกิดภาวะเป็นพิษนี้แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ของโลก[6] ในสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยภาวะนี้ประมาณ 100,000 คนต่อปี[2]ในสหราชอาณาจักรเป็นภาวะรับยาเกินขนาดจนเกิดพิษที่พบบ่อยที่สุด[5] ผู้ป่วยที่พบบ่อยที่สุดคือผู้ป่วยเด็ก[2] และเป็นสาเหตุของภาวะตับวายเฉียบพลันที่พบบ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร[7][2]
ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ค่าตับ serum transaminase(ALT, AST) จะสูงมาก

   

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ภาวะอักเสบเรื้อรังกับโรคหัวใจ 

C-reactive protein (CRP) ถูกสร้างขึ้นจากตับเมื่อเกิดภาวะอักเสบขึ้นภายในร่างกาย   ซึ่งสามารถตรวจวัดได้จากผลตรวจเลือด  แต่ยังไม่ได้บ่งชี้ว่าเป็นภาวะโรคใดโรคหนึ่งได้ เพราะอาจเกิดจากไขข้ออักเสบ ,  โรค SLE หรือ Lupus, โรคหลอดเลือดอักเสบ,ลำไส้อักเสบ

นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาพบว่า ภาวะการอักเสบน้อยๆแต่เรื้อรังก็อาจนำไปสู่โรคที่เกิดจากเซลล์เสื่อมเช่นโรคหัวใจ, มะเร็งบางชนิด, อัลไซเมอร์ ,พาร์กินสัน เป็นต้น

ภาวะอักเสบเรื้อรังอาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรม ,วิถีการใช้ชีวิต ,ความเครียดสะสม ,สัมผัสกับมลพิษ ควันบุหรี่  ,อาหาร  เครื่องดื่มที่ไม่ถูกหลักโภชนาการทั้งหลาย 

การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับC-reactive protein มีอยู่สองชนิด
๑)   ชนิดไม่จำเพาะเจาะจง
๒) high-sensitivity C-reactive protein (hs-CRP) ซึ่งแสดงสภาวะการอักเสบภายในเส้นเลือด  อันเหมาะกับการตรวจหาอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งจะประเมินจากค่าในช่วงระหว่าง 0.0ถึง 3.0  หากค่าวัดได้ต่ำกว่า  1.0 mg/ literของเลือดก็จัดว่าปลอดภัย  

หากวัดค่าได้ระหว่าง 1.0 ถึง 3.0 จัดว่าอัตราเสี่ยงปานกลาง  หากสูงกว่า 3.0 จัดว่ามีอัตราเสี่ยงสูง 

สมาคม American Heart Association (AHA) แนะนำให้ตรวจวัด hs-CRP เพื่อประเมินคนไข้ที่มีแนวโน้มสูงว่าอาจเกิดโรคหัวใจในอีก10ปีข้างหน้า (ราวๆ 10-20% ของคนไข้)  
สำหรับนายแพทย์ Dr. Weil เชื่อว่าใครก็ตามที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูงควรจะตรวจซ้ำด้วยวิธี  hs-CRP 

ผู้ป่วยด้วยโรคไขข้ออักเสบเรื้อรัง  โรคแพ้ภูมิตนเองนั้นมักมีการอักเสบภายในร่างกายทำให้ระดับC-reactive proteinในร่างกายสูงไปด้วยเสมอ  โดยเฉพาะไขข้ออักเสบอาจทำให้ระดับC-reactive protein พุ่งขึ้นสูงมาก บางทีอาจมากถึงระดับ 100 mg/L

ดังนั้นวิธีการตรวจวัด hs-CRP จึงไม่นำมาใช้ประเมินอัตราเสี่ยงโรคหัวใจกับผู้ป่วยด้วยโรคไขข้ออักเสบ (rheumatoid arthritis), ลำไส้อักเสบ, โรคแพ้ภูมิตนเอง

แต่จะใช้วิธีการตรวจชนิดไม่จำเพาะเจาะจง(วิธีที่๑) แทน  หากตรวจพบระดับ 10 mg/L หรือต่ำกว่าก็ถือว่าปกติ 

วิธีแก้ไขภาวะอักเสบที่ดีที่สุดคือปรับเปลี่ยนอาหารการกิน โดยเน้นอาหารที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบ เช่นอาหารที่มีไขมันโอเมก้า-3  ขิง ขมิ้น  งดการสูบบุหรี่, งดอาหาร ที่มีแป้งขัดขาว งด เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล , ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 

เขียนเผยแพร่โดย นายแพทย์ Andrew Weil และ นายแพทย์  Benjamin S. Gonzalez, M.D.
💠💠💠💠💠💠💠💠💠💠💠💠💠💠
ท่านส.ส.ในพื้นที่ช่วยเรื่อง​    
1)ความไม่เป็นธรรมได้        
2)หนี้​ กยศ​ 13ปีที่เเล้วได้มั้ย
น้องผมอีก​ 5หมื่นกว่าบาท
3)ญาติรบกวนว่างยารังเเกไหลตาย

ท่านลองรับทราบอุบายเรื่องประจำวันผมสิครับ​ ชื่อว่า​ นิพนธ์​ ต้องมีงานจนคนฟังขึ้น​ สรุปว่า​ 13ปีเเล้วหลอกเดิมๆ​ เน็ตเดิมๆ​ จับใครไม่ได้
[ภาค1: เรื่องประกอบหลอกเเจ้งความ​มั่วสุมแกล้งอ่านหนังสือ​ ทั้งๆที่​ ขอเงินผิดซอง]​


นางสิริมา...
โสเภณีผู้บรรลุธรรม
.
.
ในสมัยพุทธกาล ณ เมืองเวสาลี
เป็นเมืองที่กว้างใหญ่ไพศาล
เศรษฐกิจการค้าเจริญรุ่งเรืองมาก
.
.
สิ่งที่น่าสนใจคือ
หนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองนี้
คือโสเภณีชื่อดังคนหนึ่ง ชื่อนางอัมพปาลี
ถูกแต่งตั้งเป็นนาง “นครโสภิณี”
คือเป็นหญิงงามเมืองหรือโสเภณีประจำเมืองเวสาลี
.
.
เรียกว่าความงามของนาง
สวยสะคราญโฉมหาผู้ใดเทียบได้ยาก
มีศิลปะวิทยาการชั้นสูง ร้องเพลงเพราะ ฟ้อนรำสวย
เอาใจเก่ง เข้าใจการปรนนิบัติผู้ชายเป็นอย่างดี
.
.
ทำให้ค่าตัวนางสูงมาก 
ผู้ชายใดอยากครอบครองนาง
ต้องจ่ายค่าตัวสูงถึง 50 กหาปณะ
หรือคิดเป็นเงินบาทคือ 130,000 บาท!
.
.
เรียกได้ว่าต้องเป็นระดับเศรษฐีเท่านั้น
ถึงจะครอบครองนางได้
.
.
สมัยนั้น เหล่าเศรษฐีที่เป็นชายฉกรรจ์
กระทั่งกษัตริย์เมืองน้อยเมืองใหญ่
ต่างมีความฝัน มีความปรารถนา
ที่อยากมาสัมผัสนางซักครั้งในชีวิตทั้งนั้น
ทำให้มีพ่อค้านักธุรกิจมากมาย
เดินทางมาที่เวสาลี เพื่อได้ร่วมอภิรมย์กับนาง
.
.
กลายเป็นนำพาให้เศรษฐกิจการค้าการขาย
พลอยรุ่งเรื่องเติบโตขึ้นมาด้วย
เพราะนางอัมพปาลี เป็น magnet นั่นเอง
.
.
ว่ากันว่า หนึ่งในแขกของนางอัมพปาลี
คือพระเจ้าพิมพิสาร แห่งกรุงราชคฤห์
เห็นเวสาลีเจริญเพราะมีนางนครโสภิณี
จึงเอาไอเดียไปใช้ที่เมืองของตัวเองบ้าง
.
.
กลับเมืองไป ประกาศตามหาหญิงงามที่สุด
ก็ได้สตรีสาวสวยมีเสน่ห์คนหนึ่ง ชื่อนางสาลวดี
เป็นนางนครโสภิณีคนแรกแห่งเมืองราชคฤห์
.
.
นางสาลวดี ถูกฝึกถูกเทรนศิลปะวิทยาการต่างๆ
ด้วยพื้นฐานทุนเดิมนางสวยมากอยู่แล้ว
พอโดนฝึกเคี่ยวกรำอย่างหนักจนเป็นผู้หญิงที่มีงามพร้อม
ทั้งสวยทั้งฉลาดทั้งมารยาทงาม
เล่นดนตรีเก่ง ร้องเพลงไพเราะ พูดจามีเสน่ห์
.
.
ทำให้นางค่าตัวแพงกว่านางอัมพปาลีอีก
คือใครอยากเชยชมนาง ต้องจ่ายขั้นต่ำถึง 100 กหาปนะ หรือเกือบ 260,000 บาท!! 
แพงกว่านางอัมพปาลีถึง 2 เท่า!
.
.
จากคนฐานะธรรมดา
กลายเป็นร่ำรวยเงินทองขึ้นมา
นางเลยใช้ชีวิตประมาท
ทำให้ตัวเองเผลอผิดพลาด ปล่อยตัวเองตั้งครรภ์ขึ้นมา
ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอุปสรรคสำคัญของอาชีพนาง
ถ้าให้ใครรู้ ความ popular ของนางก็จะลดลง
.
.
นางจึงปิดบังไว้ พอเด็กคลอดออกมาเป็นผู้ชาย
ก็รีบให้สาวใช้เอาไปทิ้งทันที
แต่เด็กผู้ชายนั้นกลับมีบุญ
มีเจ้าชายมาเจอ เลยเก็บไปเลี้ยง
เด็กน้อยผู้ถูกทิ้งคนนั้น โตขึ้นมาสนใจศึกษาการแพทย์
จนสุดท้ายกลายเป็น หมอชีวกโกมารภัจจ์
หมอที่เก่งที่สุดในพระไตรปิฎก 
เป็นหมอประจำตัวพระพุทธเจ้า
.
.
กลับมาที่นางสาลวดี
พอทิ้งลูกไปแล้ว ก็กลับมาเป็นหญิงงามเมืองเหมือนเดิม
มีแขกเหรื่อไปมาหาสู่ไม่ขาด
แต่สุดท้ายนางก็พลาดท้องอีก
.
.
แต่คราวนี้ลูกออกมาเป็นผู้หญิง
นางคิดว่าไหนๆนางก็เริ่มแก่ละ
เลี้ยงเด็กคนนี้ไว้สืบทอดตำแหน่งนางนครโสภิณีของนางดีกว่า นางเลยเลี้ยงไว้ และตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า “นางสิริมา”
.
.
พอเติบใหญ่ นางสิริมาก็ครองได้ตำแหน่งนางนครโสภิณีแห่งเมืองราชคฤห์ต่อจากแม่ของนางสมใจ
.
.
นางสิริมาเป็นสตรีที่งามล้นเหลือยิ่งกว่าแม่ของตน
ความงามของนาง ถูกว่ากันว่างามจนใครเห็นก็เป็นต้องตกตะลึง อีกทั้งโตขึ้นมากับแม่ที่เป็นโสเภณีที่งามและค่าตัวแพงที่สุดในชมพูทวีป 
จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาในทุกแง่ทุกมุม 
ทุกเทคนิคเคล็ดลับในการเป็นโสเภณีตั้งแต่ยังเด็ก
.
.
ด้วยความครบทั้งภายนอกภายในแห่งความเป็นโสเภณีจึงทำให้นางมีค่าตัวสูงถึง 1,000 กหาปณะ หรือ 2.6 ล้านบาท!!
แพงกว่าแม่ของนาง นางสาลวดีถึง 10 เท่า!
.
.
จะได้เชยชมนางครั้งหนึ่ง ต้องจ่ายถึง 2.6 ล้านเลย
นางจึงเป็นมหาเศรษฐีณีผู้ร่ำรวย
บ้านไม่รู้ใหญ่แค่ไหน แต่ใหญ่พอที่จะมีบริวารคนรับใช้ถึง 500 คน!
.
.
จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้
Job ใหญ่ครั้งหนึ่งที่นางออกงาน
ในลักษณะที่ค่อนข้างประหลาดคือ
มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ นางอุตตรา
มาจ้างนางสิริมาให้ไปบำเรอสามีตัวเอง
เป็นงานเหมา 15 วัน 15 คืน 
ซึ่งต้องจ่ายสูงถึง 15,000 กหาปณะ หรือ 39 ล้านบาท!
.
.
สาเหตุที่นางอุตตราทำเช่นนั้น
คือพื้นฐานเดิมทางเกิดในครอบครัวที่ใจบุญสุนทาน
จิตใจใฝ่หาทางธรรมมาโดยตลอด
เคยฟังธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า
พ่อแม่ของนาง รวมทั้งตัวนางอุตตราเองก็บรรลุธรรมระดับโสดาบัน
.
.
แต่พอแต่งงานมาในครอบครัวเศรษฐีเหมือนกัน
บ้านสามีโดยเฉพาะตัวสามี
เป็นคนไม่ใส่ใจธรรมะเลยแม้แต่น้อย
ใช้เงินกินบุญเก่าวาสนาเก่าไปวันๆ
และปฏิเสธไม่ให้นางอุตตราทำบุญทำทานใดๆทั้งสิ้น
นางเลยไม่เคยได้ตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม
เหมือนตอนก่อนแต่งงาน
.
.
นางอุตตราจึงขอสามี
จะจ้างนางสิริงาม หญิงงามที่สุดในเมืองด้วยเงินของพ่อแม่ตัวเอง
มาปรนนิบัติสามี 15 วัน
และขอช่วงเวลานี้ จะนิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาต
และถือศีลแปด ปฏิบัติธรรมที่บ้าน
.
.
สามีได้ยินชื่อเสียงความงามของนางสิริมามานาน
เลยไม่ปฏิเสธ ยิ่งเจอตัวจริงยิ่งหลงใหล
และขอบใจภรรยายิ่งนัก
.
.
นางสิริมาก็มาบริการท่านเศรษฐีสามีของนางอุตตรา
สามีก็เบิกบานกาย นางอุตตราก็เบิกบานใจ
เพราะได้ทำบุญใส่บาตร 
นิมนต์มารับบิณฑบาตตลอด 15 วัน 
ได้ถือศีลอุโบสถปฏิบัติธรรมสมดังตั้งใจ
.
.
วันเวลาผ่านไปจนถึงใกล้วันท้ายๆ
นางสิริมาด้วยอยู่มาหลายวัน
อยู่ๆเลยเกิดความหึงหวง
อยากเป็นใหญ่ในเรือนแทนนางอุตตรา
เลยตรงเข้ามา ตักน้ำมันร้อนๆจะมาราดนางอุตตรา
.
.
นางอุตตราเห็นดังนั้น
จึงรีบทำสมาธิรีบเข้าฌานในจังหวะเร่งด่วนและเฉพาะหน้าสุด ทำจิตรวมเป็นสมาธิเพื่อแผ่เมตตาไปยังนางสิริมา โดยอธิษฐานจิตในใจว่า
.
.
“หญิงนี้เป็นสหายของเรา และเป็นผู้มีคุณกับเรา
ถ้าไม่มีเขา เราคงไม่ได้ทำทานและฟังธรรมเช่นนี้
ถ้าเรามีความโกรธ ขอให้น้ำมันร้อนๆนั้นลวกเรา
แต่เราถ้าไม่มีความโกรธ ขออย่าให้น้ำมันลวกเราเลย”
.
.
สุดท้ายน้ำมันร้อนเดือดจัด
ที่นางสิริมามาราดเทใส่หัวนางอุตตราก็กลายเป็นน้ำเย็น
บ่าวไพร่นางอุตตรารีบเข้ามาจับตัวนางสิริมา
และจะรุมทำร้ายให้จงหนัก
.
.
นางอุตตรารีบเอาตัวเข้าไปขวาง
ไม่ให้บ่าวไพร่รุมทำร้าย
นางสิริมาเห็นดังนั้นก็รู้สึกตัว รู้สึกผิดสุดๆในใน
เลยเข้าไปกราบที่เท้านางอุตตรา
ขอโทษด้วยความรู้สึกอยู่เต็มหัวใจ
อยากให้นางยกโทษให้
.
.
นางอุตตราบอกว่า...
“พรุ่งนี้พระพุทธเจ้าจะเสด็จมารับบิณฑบาต
ให้ไปขอโทษพระองค์แทน
ถ้าพระองค์ยกโทษให้
เราก็จะยกโทษให้”
.
.
รุ่งเช้าพอพระพุทธเจ้าเสด็จมาและทราบเรื่อง
ทรงยกโทษให้นางสิริมา
และทรงยกย่องนางอุตตราเป็นเอตทัคคะ
ผู้เป็นเลิศด้านยินดีในฌาน
และเทศนาเป็นพระคาถาว่า
.
.
“อักโกเธนะ ชิเน โกธัง 
อสาธุง สาธุน่ ชิเน
ชิเน กะทะริยัง ทาเนนะ
สัจเจนาลิกะวาทินัง”
.
.
แปลเป็นไทยได้ว่า...
พึงชนะคนโกรธด้วยความใจเย็น
พึงชนะคนร้ายๆด้วยความดี
พึงชนะคนขี้เหนียวด้วยการให้
พึงชนะคนพูดเหลวไหวด้วยการพูดความจริง
.
.
จบเทศนานี้และพระพุทธองค์ก็ทรงแสดงนางสิริมาก็บรรลุโสดาบันทันที กลับบ้านไป เลิกประกอบอาชีพโสเภณี
เข้าทางธรรมะ รักษาศีล ปฏิบัติธรรม
ใส่บาตรพระ 8 รูปทุกวันเป็นประจำ
โดยถวายของอันประณีตที่สุดเท่าที่จะหาได้
.
.
นางสิริมาทำแบบทุกวัน จนเวลาผ่านไป..
มีภิกษุรูปหนึ่ง คุยกับพระอีกรูปที่เพิ่งไปรับบิณฑบาตที่บ้านของนางสิริมามา พระท่านนั้นเล่าถึงอาหารอันประณีตและความงดงามของนางสิริมา
.
.
ภิกษุรูปนี้ แค่ได้ฟังเรื่องเล่า
ฟังคำบรรยายความงามของนางสิริมา
ก็เกิดความหลงรักแค่เพียงจากเรื่องเล่า
ทั้งๆที่ยังไม่เห็นตัวจริง
วันพรุ่งนี้เลยขอไปรับบิณฑบาตที่บ้านของนาง
เพื่อได้เห็นนางสิริมาตัวจริงกับตาตัวเอง
.
.
รุ่งขึ้น ภิกษุรูปนี้ก็ได้เดินทางไปรับบิณฑบาต
แต่วันนั้นนางสิริมาไม่สบายหนัก
แทบจะลุกจากห้องไม่ไหว 
แต่ก็พยายามลุกออกมา
โดยที่หน้าตาไม่ได้แต่ง
เพราะไม่ไหวจริงๆ
.
.
ภิกษุผู้ลุ่มหลงยิ่งเห็นตัวจริงของนางก็ยิ่งหลงรัก
คิดในใจว่า “ขนาดป่วยไม่สบาย
ยังงดงามขนาดนี้
นี่ถ้าไม่เจ็บไข้ ได้แต่งตัวตามปกติ
จะสวยงามปานนางฟ้าแค่ไหนเนี่ย”
.
.
ภิกษุผู้นั้นก็เกิดราคะ
ลุ่มหลงในนางสิริมา
กลับกุฏิไปก็ไม่ฉัน ฉันอาหารไม่ลง
ไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์
เอาแต่เฝ้าคิดถึงนางสิริมา
ไม่กินไม่นอนอยู่หลายวัน
.
.
ตัดกลับมาที่นางสิริมา
วันนั้นนางไม่สบายหนักจริงๆ
และการใส่บาตรในครั้งนั้นก็เป็นครั้งสุดท้ายของนาง
เพราะตกเย็นนางก็เสียชีวิตจากความเจ็บป่วย
.
.
พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องภิกษุผู้ลุ่มหลง
และการตายของนางสิริมา
จึงขอให้เก็บศพนางสิริมาไว้อย่างดี
ห้ามให้หมาให้นกมาแทะ
.
.
จนเวลาผ่านไปถึงวันที่ 4
ศพเริ่มเน่าเหม็นส่งกลิ่นคละคลุ้ง
มีน้ำหนองน้ำเลือดไหลออกมาตามทวารต่างๆ
ผิวพรรณแตกและเริ่มร่างกายเริ่มพอง
สภาพคือแทบดูไม่ได้ ใครเห็นเป็นจะอ้วก
.
.
วันนั้นพระเจ้าพิมพิสารประกาศให้ชาวเมืองทุกคนมาประชุมกันที่หน้าศพนางสิริมา 
พระพุทธเจ้าและคณะภิกษุสงฆ์ก็เดินทางมาที่นี่
.
.
ภิกษุผู้ลุ่มหลงไม่รู้ว่านางสิริมาตายแล้ว
ได้ยินว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จไปหา
แค่ได้ยินคำว่า “สิริมา”
เลยรีบผุดลุกจากกุฏิ เดินทางตามไปกับหมู่พระภิกษุ
.
.
เมื่อทุกคนมาพร้อมกัน
พระพุทธเจ้าให้พระราชาประกาศขายศพนางสิริมา
เท่ากับราคาค่าตัวของนาง 1 วันคือ 1,000 กหาปณะ
ปรากฏไม่มีใครซื้อ
.
.
เลยให้ประกาศลดลงเรื่อยๆ
จาก 1,000 
เหลือ 500
เหลือ 250
เหลือ 200
เหลือ 100
เหลือ 50
เหลือ 20
เหลือ 10
เหลือ 1
ก็ยังไม่มีใครเอา
จนกระทั่งประกาศให้ฟรีๆเลย
ก็ยังไม่มีใครเอา
.
.
พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงเทศนาสั่งสอน
โดยใช้ศพของนางสิริมาเป็นอุบาย
ว่าให้ทุกคนดูนะ นี่คือผู้หญิงที่งามที่สุดของเมืองนี้
ใครจะเชยชมนาง ต้องจ่ายถึง 1,000 กหาปณะ
แต่วันนี้พอนางตายไปแล้ว
ผ่านเวลาไปแค่ไม่กี่วัน
ความงามของนางสิ้นและเสื่อมลง
ไม่เหลือเค้าเดิมความงามใดๆอีก
และเมื่อหมดซึ่งความงามแล้ว
ยกให้เปล่าๆก็ไม่มีใครเอาแม้แต่คนเดียว
.
.
พอเทศนาจบ ภิกษุผู้ลุ่มหลงผู้นั้นก็บรรลุโสดาบัน
ส่วนนางสิริมาพอตายไปก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นยามา
และกลับมาฟังธรรมของพระพุทธเจ้าที่หน้าศพของตัวเอง
ได้บรรลุธรรมเพิ่มอีกสองขั้นเป็นระดับอนาคามี
.
.
.
.
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องของนางสิริมา
มี 3 อย่างด้วยกัน
.
.
เรื่องแรกคือ 
คนเราต่อให้ทำผิดแค่ไหน
เมื่อรู้ตัวแล้ว ยังมีโอกาสกลับตัว 
และเข้าถึงธรรมได้เสมอ
ไม่มีคำว่าช้าหรือสายเกินไป
.
.
นางสิริมาประกอบอาชีพที่ไม่ดีงามนัก
หมิ่นเหม่ต่อการผิดศีลข้อสามตลอดเวลา
ถูกแม่เลี้ยงดูมาอย่างผิดทิศผิดทาง
จนกระทั่งเกือบจะได้ฆ่าคนไปแล้ว
.
.
แต่เมื่อรู้ตัวเองว่าหลงผิด
แล้วกลับมาตั้งจิตในธรรม
ไม่มีอะไรสายไปทั้งนั้น
.
.
เรื่องที่สอง
คือ อำนาจของกิเลส
.
.
เราเรียนรู้จากภิกษุที่ลุ่มหลง
เป็นภิกษุแท้ๆ อยู่ในเพศสมณะ
แต่กลับปล่อยใจให้พ่ายต่อกิเลสราคะ
.
.
อำนาจของกิเลสมีฤทธิ์แรงจริงๆ
ขนาดสมณะเพศยังหลุดได้
แถมหลุดไปไกล
คนธรรมดาอย่างเราๆ
จึงต้องเฝ้าใจเราให้ดี
อย่าปล่อยให้กิเลสมีอำนาจมาเหนือใจเราได้
.
.
เรื่องที่สามคือเรื่องความไม่เที่ยงของร่างกาย
ร่างกายเป็นสิ่งที่ไม่จีรัง
เป็นสิ่งที่เรายืมมาจากธรรมชาติชั่วคราว
สุดท้ายต้องเสื่อมและสลายคืนธรรมชาติในที่สุด
.
.
การเสื่อมของร่างกาย
จริงเป็นเรื่องที่แน่นอนและธรรมดาที่สุดในโลกนี้
แต่หลายครั้งกับหลายคนที่เป็นทุกข์
เพราะอยากยึดไว้ ไม่อยากให้เสื่อม
.
.
บางคนทุกข์เพราะหน้าเริ่มมีตีนกาขึ้น
บางคนทุกข์เพราะเป็นโรคต่างๆที่เกิดจากร่างกายเสื่อมถอย
บางคนทุกข์เพราะพยายามไปยื้อ ให้ร่างกายดูอ่อนเยาว์ตลอดเวลา
บางคนก็ทุกข์ก็ไปยึดติดลุ่มหลงในกายของคนอื่น
.
.
ร่างกาย เป็นสิ่งที่เสื่อมแน่นอน
เดี๋ยวนี้มีศาสตร์ชะลอวัย แต่ก็ทำได้แค่ชะลอ
เทคโนโลยีไปไกลแค่ไหน แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องเสื่อมลง
.
.
แทนที่เราจะทำใจและเข้าใจให้รู้แจ้งเห็นจริง
และคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่มีใครหนีได้
มีแต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น
.
.
แต่พวกเรากลับ...
พยายามฝืนความเป็นจริงของธรรมชาติ
และทุกข์กับความเป็นจริงของธรรมชาติ
.
.
ความจริงที่เราเห็นอีกอย่างก็คือ...
ต่อให้ร่างกายภายนอก
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
สวยงามแค่ไหน
พอตายไปไม่กี่วัน
ทุกคนจะกลับมาหน้าตาเหมือนกันหมดอยู่ดี
.
.
อยู่อย่างเข้าใจมัน เข้าใจธรรมชาติ
เข้าใจความเป็นไป และอย่าไปยึดมั่นถือมั่นเลย

เจริญพร

#เพจธรรมะย่อยมาแล้ว
#ธรรมะดีๆที่ใครๆก็เข้าถึงได้

=====

#แอดไลน์ เพื่อไม่ให้พลาดทุกธรรมะดีๆ และบางทีไม่ได้โพสต์ในเฟสบุค คลิ๊ก 



2️⃣🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩🚩
เพลงfinal.countdow /jazz trombone solo 

Trombonelist คนนี้ระดับon tour เก่งระดับโลกตอนนี้

               

🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘🆘



🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵🎵


[ภาพ​:ภาค2ถึง​ขอนแก่นบ้านเก่า]​
เรื่องมั่วสุ่มราชการอำเภอเชียงยืนจนหนังสือไม่เสร็จเเถมมีเรื่องถึงตำรวจครับ
ท่าน​ อาจารย์​ เเละส.ส.สุทิน​ คลัง​เเสง

อยากให้บอกนายอำเภอเเละเสมียนดังนี้ครับ
เป็นกลเกมส์​ สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน​ กับ​ ชุมนุมการเมืองใน​ กทม.ดังนี้ครับ

📝ถึง​ ใบเสร็จค่าน้ำ​ ทำใจน่ะเขาไม่ใช่ญาติเราเเล้ว​ เพราะถูกใครไม่รู้ผู้อบรมจน​ ถูกรังเเกขาดคุณสมบัติรับราชการ​ ตอนนี้กำลังว่างเเถมถูกยากำจัดอยู่น่ะ​ ระวังมันมาหา...!! 📴

(เป็นคำพูดรังเเกไปขอนแก่นบ้านญาติผมตลอดทุกวัน)​

✔️🔏ตลอดปี​ผมถูกแกล้งเรื่องนี้ครับให้หน่วยงานราชการเร่งเอาคุณสมบัติผมมาคืนด่วน!!! 
🏗️🏰🗽🚅🚑

💯"เดิม​ ห้องสมุดกลาง​ กรมการปกครอง... จนสมัย​ ฯพณฯท่านบรรหาร​ ศิลปอาชา​ จัดงบฯ  เป็นห้องสมุดดำรงค์ราชานุภาพ...

  พอท่านชายปนัดดา​ จบจากอเมริกา​ เป็นผู้อำนวยการสถาบันดำรงค์ราชานุภาพ" 






ปี54 บ้านหนองมันปลา​ สั่งการเเละมั่วเอกสารผมให้ร่าง.พรบ.องค์การขุนนางสยาม​... จนคืนหนึ่งจับโจรทีวีมาถึงบ้านผม..... ผมถูก​ ตร.จะตี...เลยครับ​ ( ที่นี่เพิ่งมี​ Net​ cafe computer ชุมชน)​
    พวกผู้นำหมู่บ้านมันซ้อนเเผนบอกล่วงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงยืน​ จะทำบ้านผม2สามคนเป็นศพเลย.. 

พวกนี้รายงาน  ด่าภาค2 ถึง ขอนแก่น​ บ้านปู่ว่า"เราเเจ้งความเเล้วเธอ​ ฆ่าความสงบรังเเกญาติเรา" (ผมต้องเป็นเหมือนกัน)​

ปล.ผมไม่ยอมความติดคุกคนชั่ว/ราชการมึงนั้นเเหละ!!! 

ความสำคัญของสถาบันดำรงค์ราชานุภาพ​


กระบวนการในการค้นคว้าวิจัยจากเอกสารราชการดังต่อไปนี้เป็นลำดับ
 Description :
ประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์   ความหมายและการจำแนกสาขาประวัติศาสตร์ขึ้นอยู่กับประเภทของหลักฐานประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ

1)ประเภททั่วไปและ
2)ประเภทเฉพาะเรื่อง

ประวัติศาสตร์จากสถาบันประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นเป็นประวัติศาสตร์เฉพาะเรื่องรวมถึงประวัติศาสตร์จากการบอกเล่าก็เป็นแขนงหนึ่งโดยอาศัยการบอกเล่าปากต่อปากของคนหลายชั่วอายุคนแม้ในปัจจุบันนักประวัติศาสตร์จะให้ความสนใจในเรื่องตัวอักษรหรือหลักฐานที่เป็นวัตถุก็ตามการบอกเล่าก็ยังจำเป็นต่อการเขียนประวัติศาสตร์อยู่ หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรนั้นประกอบไปด้วย
1) จดหมายเหตุ
2) ตำนาน
3) พระราชพงศาวดาร
4) พงศาวดารแบบพุทธศาสนา
วรรณคดี หนังสือเทศน์จารึก
5) เอกสารราชการหรือเอกสารการปกครอง

  ประกอบไปด้วย

 ใบบอก​ คือ​ รายงานของข้าราชการส่วนภูมิภาคหรือข้าหลวงต่างพระเนตร เป็นการกราบทูลแก่เจ้านายเช่น
ส่งส่วย รายงานน้ำฝน บอกเหตุการณ์บ้านเมือง
บอกการทัพต่างๆ. เขียนในกระดาษสาใช้ทำว่าว

  สารตราศุภอักษร​ สารตรา คือ หนังสือของเสนาบดีจากส่วนกลางมีไปยังเจ้าเมือง. 
ศุภอักษร​ คือ​ หนังสือของเสนาบดีมีไปยังเจ้าประเทศศราช​  จัดทำบันทึกสมุดดำแล้วทำสมุดขาวเพราะใช้กระดาษดำและกระดาษขาว

บัญชีทูลเกล้าฯ​ อยู่ในรูปของ​ สมุดดำเป็นรายงานของเจ้าหน้าที่ที่รัฐบาลกลางทำเสนอต่อพระเจ้าแผ่นดินให้ทอดพระเนตรเช่น ภาษี บัญชีเลิกไพร่กรมกองต่างๆ​ บัญชีใช้จ่าย บัญชีปืนใหญ่เป็นต้น

คำให้การ​  คือ​ คำให้การคดีชั้นอุทรกราบบังคมทูลขึ้นไปเพื่อทรงพระราชวินิจฉัยหรือโปรดให้แก่ข้าราชการวินิจฉัยหรือครับให้การของข้าศึกที่จับมาได้จากสงคราม​ เป็นต้น

บันทึก เป็นการบันทึกเหตุการณ์ของบุคคลเกี่ยวข้องกับเรื่องราชการหรือหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ซึ่งให้ประโยชน์ในแง่ของชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนความรู้สึกนึกคิดของคนในสมัยต่างๆได้ด้วยได้แก่​
▪️ ความทรงจำซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

▪️จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี 


▪️บันทึกพระยาทรงสุรเดช. 

▪️งานใต้ดินของพันเอกโยธีพลเอกเนตรเขมะโยธิน​ เป็นต้น


🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🇺🇲🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🥇🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🌎🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🎪🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽🗽👨‍👧‍👦👩‍👧‍👧👨‍👧👩‍👩‍👧👩‍👩‍👧‍👦👨‍👦👩‍👩‍👧‍👧👩‍👩‍👦👩‍❤️‍👩👬💑👨‍👩‍👦‍👦💏

สรุป​  : 

✔️ค้นคว้าอ่านไม่จบ  เเถมยังหลอก​ สถาบันดำรงค์ราชานุภาพ​ บังคับมั่วสุมให้ร่าง​ พรบ.เสนอ​ รธน.เก่า​ จนวันนี้ถูกทำร้ายในบ้าน

✔️เป็นสัตย์ชั่วราชการอำเภอเชียงยืน​ หลอกไปเเจ้งความตำรวจ2 -​3​  สภ.อ.
ตำรวจนครบาลน่าจะเเค่ดูทีวี

✔️ทรงงานเเล้วก็เเกล้งอีกจนไม่ผ่านน้าๆฮุ้บสมบัติ​ หลอกเพื่อนจับเป็น​ อสม.เอารายได้​800บาท​ 

ถ้าท่านสุทิน​ คลังเเสงทราบเเล้ว​ เเก้ปัญหาด่วน​ มั่วโทรมากๆ... 

ผมกลัวจะเป็นบ้าเป็นหลัง... 

ขอรัฐบาลช่วยอีกที​ 


ระบอบทักษิณ​ ชั่วอยู่เเล้ว​ 
ยังมีระบบทักศิลชั่วใส่ความอีก
🚑⭐⭐⭐⭐💯
1.ใบปริญญา​ 
2.ใบรับรองเเพทย์
3.โอกาสรับราชการ​
 4.ศักดิ์ศรีเป็นลูกหลานใช้นามสกุลได้

ต้องลงโทษ
​1. อำเภอเเละพวกอุบายค่าน้ำ
2.ลงโทษคนรายงาน

เพราะคนมองว่าเป็นภัยสังคมมากๆ
อุบายกินเงินเดือนชั่วๆจาก​ อำเภอเชียงยืน​ ขี้ข้าโรงเรียน​ในเขตสพฐ.มหาสารคาม
💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯💯



⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫⚫


Help me 👩‍👩‍👧‍👧👬
📢
2 กุมภาพันธ์​ 2562  ความช่วยเหลือของรัฐ



งานหารายได้ที่บ้านท่ามกลางนิสัยพวกนี้
คุยกับใครก็ไม่ทำ​ เเม่เฉยเมย






เกษตรจังหวัดขอนแก่น กล่าวยืนยันมีการสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ถึงวิธีการปลูกข้าวโพดฝักสดกับข้าวโพดลี้ยงสัตว์  อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190130173702523




ข้าวโพดเป็นพืชที่รับความสนใจในการบริโภคทั้งในรูปของฝากต้มและแปรรูปแล้วปัจจุบันยังพบในรูปของการใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจระดับ 3 ของโลก



มีการผลิตโดยทั่วไปในเขตอบอุ่นอากาศจึงร้อนชื้นและพื้นที่ราบเขตร้อนอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 20 ถึง 30 องศาเซลเซียส มีความต้องการปริมาณน้ำฝนประมาณ 450 ถึง 600 mm ดินที่เหมาะสมในการปลูกข้าวโพดควรเป็นดินร่วนเหนียวปนทราย

หน้าดินลึกประมาณ 60 เซนติเมตรมีการระบายน้ำได้ดีมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง pH 4-9

แหล่งผลิตที่สำคัญภาคเหนือ​ : เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​ : นครราชสีมาชัยภูมิ​ ศรีสะเกษ
ภาคกลาง​: ลพบุรี สระบุรี

ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี สุพรรณบุรี

ภาคตะวันออก : สระแก้ว​ ปราจีนบุรี​ จันทบุรี

พันธุ์ส่งเสริมแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1) พันธุ์ผสมเปิดได้แก่พันธุ์สุวรรณ 5000 นครสวรรค์ 1
2) พันธุ์ลูกผสม ได้แก่พันธุ์สุวรรณ 3851 พระนครสวรรค์ 72 และลำพันธุ์ลูกผสมของภาคเอกชน

▪️การปลูก  ระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระหว่างต้น 25 เซนติเมตร จำนวน 1 ต้นต่อ 1 หลุม จะได้จำนวนต้นละ 8, 533 ต้นต่อไร่

▪️ ฤดูปลูก : ต้นฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมในเขตพื้นที่ไร่

ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมในเขตพื้นที่ไร่

ฤดูแล้งตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมในเขตพื้นที่ชลประทาน

▪️ การเตรียมดิน การเตรียมดินตามปกติได้แก่ การไถ่ดะ​   เป็นการไถครั้งแรกเพื่อเปิดหน้าดิน​  การไถแปรและควรเป็นการไถขวางแนวการไถด่าครั้งแรกเพื่อย่อยดินให้แตกและคุกเคล้า​ ซากพืชและอินทรีย์วัตถุ และการไถขั้นสุดท้ายโดยการไถชักร่อง เป็นการไถดินหลังจากข้าวโพดงอกแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์เพื่อกำจัดวัชพืชและเป็นการกลบปุ๋ยที่ใส่ให้กับข้าวโพดในขณะเดียวกัน

การเตรียมดินโดยลดการไถพรวนเป็นการเตรียมดินเพื่อลดผลจากการเหยียบย่ำของเครื่องจักรกลเกษตร เป็นการเตรียมดินเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีการไถพรวนเลย
  หลักวิธีการโดยการนำสารเคมีกำจัดวัชพืชที่หลงเหลือค้างก่อนการปลูก สารเคมีที่นำมาใช้กำจัดวัชพืชเป็นสารชนิดเลือกทำลายหรือยาฆ่าวัชพืช

▪️ วิธีการปลูก ใช้แรงงานคนหยอดเมล็ดพันธุ์หรือใช้เครื่องผูกติดท้ายรถแทรกเตอร์

▪️ การดูแลรักษา การใส่ปุ๋ยมี 2 ระยะคือ

1.ปุ๋ยร่องพื้นให้ใส่พร้อมปลูก​ โดยใช้รถปลูกพร้อมใส่ปุ๋ยหรือใช้แรงงานคน ปุ๋ยแต่งหน้าใส่หลังจากปลูก 25-30 วัน ให้ใส่พร้อมรถทำรุ่น

2.หรือหลังจากทำรุ่นด้วยแรงงานคน เสร็จแล้วกลบปุ๋ย

▪️ การให้น้ำ ความต้องการน้ำจะสัมพันธ์กับอายุการเจริญเติบโตของข้าวโพดเมื่อข้าวโพดอายุในระยะเริ่มงอกจะต้องการปริมาณน้ำน้อยกว่าระยะออกดอกและสร้างเมล็ด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเกี่ยวกับชนิดของดินและความชื้นของดิน สภาพภูมิอากาศ

ส่วนวิธีการน้ำได้แก่
​ การพ่นฝอยสปริงเกอร์ 
แบบร่องคู่ Furrow 
แะ แบบใช้น้ำท่วมแปลง flooding

   ▪️ วัชพืช​ สามารถทำได้หลายวิธี เช่นการเตรียมดินที่ดี การดายหญ้าและพรวนดิน กลวิธีได้แก่ การปล่อยน้ำเข้าแปลงให้ท่วม สำหรับวิธีการเผาเป็นการทำลายธาตุอาหารและคุณสมบัติทางกายภาพของดิน

และวิธีการใช้สารเคมีในการควบคุมและป้องกันกำจัด อาจจะมีการใช้ในระยะก่อนการปลูกข้าวโพด ได้แก่พาราควอต และไกลโฟเสท หรือใช้หลังจากการปลูกข้าวโพดแต่ยังไม่งอก ได้แก่​ อาทราซีน​ และอนาคลอร์อาจใช้สารเคมีหลังจากข้าวโพดงอกแล้วได้แก่พาราควอต  

▪️ โรคและแมลง​ การปลูกข้าวโพดในแปลงใหญ่มักจะพบศัตรูเช่นโรคและแมลงบางชนิดโรคที่สำคัญได้แก่ โรคราน้ำค้างหรือโรคใบลายป้องกันได้โดยการคลุกเคล้าสารเคมีในเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกและใช้พันธุ์ต้านทาน ส่วนศัตรูประเภทภัยแล้งส่วนใหญ่เกิดจากแมลงพวกปากดูดและกัด เช่นหนู นก หนอนกัดและเจาะลำต้นหรือฝาก

▪️ การเก็บเกี่ยว​ ช่วงเวลาที่เหมาะสมขณะที่ใช้ใบข้าวโพดแห้งทั้งต้นหรืออายุ 110-120 วันหลังจากการปลูก หรือเมื่อแกะเมล็ดจะเห็นเนื้อเยื่อสีดำอยู่ในคนเมล็ด

วิธีการเก็บเกี่ยวใช้แรงงานคน เครื่องมือ เช่น เครื่องปลิดฝักข้าวโพด เครื่องปลิดและขูดเปลือกหุ้มฝักข้าวโพดและเครื่องเกี่ยวนวดข้าวโพด

▪️ วิธีการเก็บรักษา​ สามารถเก็บในรูปของเมล็ดข้าวโพดภายใต้อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสและปริมาณความชื้นในเมล็ดต่ำกว่าร้อยละ 15

สามารถเก็บได้นานหลายปีและเก็บในรูปของฝักข้าวโพดที่มีความชื้นในเมล็ดต่ำกว่าร้อยละ 25 สามารถเก็บได้นานถึง 60 วัน

ขณะเดียวกันมาตรฐานของสินค้าเมล็ดข้าวโพดมีการปนเปื้อนสารอัลฟ่าท็อกซินไม่เกิน 20 ppb และสีเมล็ดควรมีสีเหลืองส้ม


ที่มากรมส่งเสริมการเกษตร


ปัญหาคือคุกไม่พอขังหนะสิครับ ถ้าจับจริง 5555 

ว่าไปปัญหาที่แท้จริงคือ ผลผลิตราคามันถูก ทีนี้การจัดการก็ต้องถูกลงไปด้วยเพราะมันคือต้นทุน ซึ่ง ไอ้การเผานี่ละมันถูกสุดครับ ไฟแช็คอันละสิบบาท จุดไม่กี่ที วายวอดทั้งไร่ 
จริง ๆ เทคโนโลยีที่ทำให้ไม่ต้องเผาก็มีครับ เครื่องสางใบอ้อยชนิดต่าง ๆ แต่มันก็ไปเพิ่มต้นทุน 
อย่าคิดว่าทำไม่ได้ ขนาดสร้างจรวดขึ้นไปดวงจันทร์มาแล้ว นี่มันกาก ๆมาก 
ทีนี้ ที่ราคามันถูกเพราะเกษตรกรไม่มีสิทธิตั้งราคา และเป็นพืชเชิงเดี่ยวที่ต้องการปลูก การขายนั้น เข้าร่องแข้งโรงงานตั้งแต่ต้นมือ โดนเตะซ้ายเตะขวา 555 

ทางแก้คือ ขยับราคาขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ยากเพราะไม่มีอำนาจต่อรอง อันนี้ตันไปทางหนึ่ง 

ทางต่อมา เลิกปลูก ยากอีก ยิ่งถ้าเป็นหนี้นายทุนยิ่งเลิกยาก โดนดอกเบี้ยหวดหลัง 

ทางสุดท้าย จัดการนายทุน รื้อระบบ เอาต้นทุนมาดู หาราคาที่เป็นธรรม ยากอีก เพราะรัฐบาลเป็นขี้ข้านายทุน 555

แถมการเผาก็ไปสมประโยชน์ขายปุ๋ยยา เพราะดินเสีย ได้ขายปุ๋ยยามากขึ้น 

สุดท้ายครับ ถ้าปราบคอรัปชั่นได้ ประเทศไทยหมดปัญหาครับ

📈📈📈📈📈📈📈📈📈📈📈📈📈📈



1️⃣  บ้านในขอนแก่น​ ใจกลาง​เมือง 1.4 ล้านบาท
2️⃣  อ่านหนังสือไม่ออก ทำร้าย​ มีบ้ากาม​ 24 ชม.
3️⃣  นา3ไร่​ พอกิน​ เเต่ฮุ้บไปหมด​ต้องเอาบ้าน​พ่อมาซื้อ​ ไร่ละเเสนบาท​ ได้เพียง1ไร่
4️⃣  พูดไปมีเเต่ค่าน้ำ​ ผสมคลอรีน​ ต้นไม้ตายใน5เดือน​ บ้าใบเสร็จ​ ทำร้าย​ ขาดแห่งน้ำใช้ในการเกษตร​ ตั้งเเต่อายุ29ปี​ ลำคาญ9ปีเเล้ว​ ตอนนี้อายุ40ปีเเล้ว​ แกล้งการเมืองนายอำเภอเชียงยืน​ จนไม่เจริญ​ (ไก่หายตัวละ3, 000บาท​ 6ตัวทุกวัน​ ต้นไม้ตายโดนคนอาละวาดทุกวัน... โง่ๆชักเว้า​ หมู่10+อำเภอ​ ชั่วทั้งโครต)​


ที่นี่ไม่นิยมลงทุนเรื่องอสังหาริมทรัพย์หรือการลงทุนทางตลาดเช่นการขายหุ้น
    ล่าสุดมีการพูดถึง market Sharing ในสาขาใหม่คือธนาคารกรุงไทยสาขาเชียงยืนห่างจากอำเภอเมืองขอนแก่น 22 กิโลเมตร



การที่เราจะไปลงทุนกับพันธบัตรรัฐบาลหรือกองทุนที่ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ขายในตลาดหุ้นเราต้องมีเงินอย่างน้อย 5,000 บาท เมื่อเทียบอัตราส่วนระหว่างเงินฝากแบบเผื่อเรียกที่เราต้องฝากทุกปี เราจะได้กําไรสุทธิจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียง 4% แต่ถ้าเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจากธนาคารก็เพียงร้อยละ 0.25 เปอร์เซ็นต์​  

ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์​ ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝาก แต่ใช้ระบบการระดมเงินฝากผ่านกองทุนการเกษตรที่ธนาคารเป็นเจ้าของกองทุนนั้น โดยฝากขั้นต่ำอย่างน้อย 2,000 บาททุกปีจนถึง 6,000 บาท โดยมากก็จะมีการจับฉลากผู้ได้โบนัสแจ็คพอตที่เป็นลูกค้าธกส จะได้รับเป็นมอเตอร์ไซค์ เป็นโทรทัศน์หรือบัตรกำนัลอื่น​ เรียกว่า​ "สลาก​ ธกส" ลูกค้าธกส ในเขตอำเภอเชียงยืนจะนิยมไปเล่นกิจกรรมแบบนี้ในเขตอำเภอเชียงยืน​                             มากกว่า​ ถือว่าเหมือนถูกหวยรัฐบาล

ในเขตอำเภอเชียงยืนจะมีธนาคารออมสินเป็นธนาคารที่มั่นคงและก็มีการตรวจสอบที่เข้มงวด เพราะว่ามีโครงการธนาคารประชาชนที่ให้ผู้ที่มีรายได้ประจำตั้งแต่เดือนละ 1,000 บาทขึ้นไปมีสิทธิ์ขอกู้เงินวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท คนที่เชียงยืนไม่ค่อยได้มีโอกาสซื้อสลากออมสินพิเศษ เหมือนคนที่ธนาคารออมสินขอนแก่น ธนาคารออมสินเชียงยืนจะเป็นระบบขอกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยและเช่าซื้อสินค้า ไม่มีการจับฉลากออมสินชนิดพิเศษใดๆเหมือนขอนแก่น


www.glo.or.th
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

 มีร้าน แผงขายล็อตเตอรี่ในอำเภอเชียงยืนอยู่ 1 ร้าน

 สลาก 1 ชุดมี 1 ล้านฉบับ ฉบับละ 80 บาท ถ้าจำหน่ายหมดจะกำหนดเงินรางวัลต่อชุดดังนี้

รางวัลที่  หนึ่ง​ มี​ 1รางวัล​ 6ล้านบาท
รางวัลที่​ สอง​ มี​ 5​ รางวัล​ 2เเสนบาท
รางวัลที่​ สาม​ มี​ 10  รางวัล​ 8หมื่นบาท
รางวัลที่​ สี่​  มี​50รางวัล​ 4หมื่นบาท
รางวัลที่ห้า​ มี​ 100รางวัล​ 2หมื่นบาท


รางวัลข้างเคียงรางวัลที่1 มี2รางวัล​ 
1เเสนบาท

รางวัลเลขหน้า​ 3ตัว​ เสี่ยง2ครั้ง​ มี2พันรางวัล
รางวัลละ 4,000 บาท

รางวัลเลขท้าย​ 3ตัว​ เสี่ยง2ครั้ง​ มี2พันรางวัล
รางวัลละ​ 4,000บาท


⭐รางวัลเลขท้าย2 ตัว​ เสี่ยง1ครั้งมี1หมื่นรางวัล​ รางวัลละ​ 2,000บาท






🎈โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ2561



วันที่ 11 มิถุนายน 2561 เวลา 09:30 วิทยากรความรู้ปราชญ์ชาวบ้านคุณพ่ออุดม เรื่องการนำผักชีวภาพ มารับประทานให้เก็บยอดพืชทุกวันก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพราะพืชสังเคราะห์แสงออกซิเจนมาใช้เมื่อรับประทานผักผลไม้ก็จะได้ออกซิเจนไปด้วยควรกินอาหารครบ 5 หมู่เพราะในร่างกายเราต้องการพลังงานออกซิเจนในเลือดไปสันดาปกับพลังงานใดที่ได้รับสารพิษก็จะมีปัญหาเรื่อง 
ฮีโมโกบีน ในเม็ดเลือดจะเกิดอาการเจ็บป่วยทางระบบท่อไตและสมรรถนะ การฟอกเลือด เราควรรับประทานอาหาร 3 มื้อมื้อเช้าควรเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน มื้อเที่ยง​ เย็นให้รับประทานตามอัตภาพ

หัวหน้าทีมเป็นปลัดพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงยืน ให้วิทยากร คือปลัดเกษตรอำเภอเชียงยืนเป็นผู้บรรยายเรื่องวิชาส่งเสริมอาชีพหลักและรอง

วิชาส่งเสริมอาชีพหลัก มีอยู่ 2 วิชา

1. การทำบัญชีครัวเรือน
2. ส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร


วิชาส่งเสริมอาชีพรองให้เลือก 3 วิชา ขึ้นอยู่กับความสามารถและเวลาของผู้เรียน

1. การทำปลาฟักปลาส้ม
2. การทำขนมไทยทำขนมตะโก้
3. การเพาะเลี้ยงเห็ด
################################################################################################​ 


กรมพัฒนาชุมชน







กรมพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงยืน​

โครงการสัมมาอาชีพชุมชน
Smart Farmer ของบ้านหนองมันปลามัน

 ให้รวมกลุ่ม ผู้นำเกษตรกรเรียกว่าปราชญ์ชาวบ้าน 5 คน มีแกนนำเป็นป่าชุมชนเ****วชาญด้านก่อสร้าง ด้านท่อประปา /ด้านเย็บผ้า/บัญชีครัวเรือน

ให้รวมกลุ่มเกษตรกรอย่างน้อยครัวเรือนละ 1 คน โดยทางกรมพัฒนาชุมชนโอนเงินให้ 20,000 บาท ทางคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นชั่วคราวนั้น ได้ตกลงขอความช่วยเหลือจากราชการว่า จะทำการปลูกผักปลอดสารพิษ ซึ่งประกอบไปด้วยผักต่างๆให้ชาวบ้านนั้น นำไปบริโภคหรือเอาไว้ใช้กินในครัวเรือน ถ้าหากเหลือจากการบริโภคในครัวเรือนแล้วจะนำไปขาย จำหน่ายโดยให้เกษตรกรครัวเรือนละ 1 คนนั้นลงทุนใน หุ้น ของโครงการนี้  From the idea of home in Khon Kaen.



ความรู้ง่ายๆครับเราปลูกกล้วยปลูกต้นไม้ไว้ในบ้านเป็นงานอดิเรก หรือว่ามีสวนขนาดใหญ่ แล้วก็มีวัตถุดิบในการผลิตอาหารเหล่านี้ได้ครับเป็นการประหยัดเงินค่าใช้จ่ายของเราในการ บริโภคอาหาร เป็นคริสปี้kisspyเป็นอาหารขบเคี้ยว. ตลอดระยะเวลามันจะ support ว่าบ้านผมพ***ศีลธรรมเป็นคนบ้ากามข่มขืนขนาดนายทะเบียนที่ออกใบทะเบียนบ้านยังถูกข่มขืนฆาตกรรม ความจริงแล้วมันเป็นน้ำคลอรีนครับแล้วสิ่งที่มันบ่นก็คือไก่ตัวเมียไก่ตัวผู้ถูกเขาจะไปลูกไก่ถูกเขาจับไปบางครั้งก็คนหน้าเหมือนเป็ดเป็ดชอบไล่ผสมพันธุ์เป็ดตัวผู้เรานี้แหละครับก็ไม่รู้จักกาละเทศะจะกินเวลาอยู่สักประมาณ 5 ปี 6 ปีงานอดิเรกที่เราทำก็จะเป็น ขนมพวกนี้ครับไม่มีขนมกิน ไม่มีเครื่องอบขนมเค้กส่วนใหญ่เขาจะทำให้เราหลงเพลินอยู่กับการปลูกปลูกแล้วก็ติดคอรีนตาย งานอดิเรกที่ได้ก็เป็นขนมครับประหยัดอาหารมื้อใหญ่ก็ไม่ได้อาจจะเป็นโปรตีนอาจจะเป็นอาหารที่มีรสชาติถูกปากขนาดนี้ยังไม่ได้กินโปรตีนนะครับ แล้วมือเล็กอย่างรูปที่ผมเอามาแสดงเนี่ยจะได้อะไรครับ สิ่งที่ได้ก็คือเข้าไปในเมืองขอนแก่นไปกินอาหารแฟชั่นฟู้ดอาหารแฟรนไชส์ไปผ่อนชำระสินค้าที่มันสะดวกสบายทันสมัยไปพบปะสร้างโอกาสทำการค้าเราไม่จำเป็นจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้แค่การสมัครงานผู้ใหญ่บ้านหรือเป็นอะไรกับอำเภอเชียงยืน ผมบอกตรงๆว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งหมดร้อยละ 90 ของความเป็นบ้าก็คือสิ่งเหล่านี้ครับมันไม่ได้อย่างที่แสดงไว้ในภาพนี้







https://m.youtube.com/watch?v=EkJGZixuV9Yการล้างพิษตับ

เพจ: ลุงจำลอง​ กำลังรณรงค์การล้างพิษตับร่วมกับสถานี​ AsTV 3กพ62

***********************************
มีปัญหาลงโทษยังไม่ถูกเเถมซ้ำเรื่องเดิม
กฎคือ​ ศิลธรรมคือความสงบเรียบร้อยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น​ พวกมหาสารคาม​ เขาไปหากินในขอนแก่นห้ามละเว้น​ ครับท่าน​ ผวจ.ขก​

 ต่อให้เป็นบ้า​ ก็ต้องลงโทษพวกมันต่อ..
5​ ศพเเล้วครับท่าน​ เเค่ตู้เติมเงินครูหมวดศิลปะดนตรีหมอลำ...




************************************
4:25 น.ญาติของสำนักงานพัฒนาสังคมมนุษย์จังหวัดขอนแก่นอยู่ถัดไปอีก5หลัง...
   คำพูดอวดอันธพาลบอกว่า ยศนามสกุลเป็นของหมู่บ้านนี้หลอกลวงมาได้ แม้แต่ชีวิตผมก็หลอกเอามารังเเกสำเร็จ​ (นัดเเนะทั้งหมด)​ต้องฆ่าแล้วเอาไปคืน Jack in the Box Idaho May 29th 

กูจะด่าพ่อมึงซวย​ ไอ้ศาสดาคุก ในหลวงรู้จักมึงที่ไหนบักหมาวัด มันมานั่งเล่าบอกเล่า Facebook มา 5 ชั่วโมง​     


 มันพูดคนเดียวทั้งคืน​ ตั้งแต่ 6 ทุ่มจนถึงตี 4 แล้วปกติทุกวันที่ผ่านมาหลายปีมันนั่งประจาน Facebook ว่าจะคุยกับใครมีหนังโป๊เรื่องว่าอะไรคือผมเป็นคนมีอัธยาศัยอ่านหนังสือตามที่มันค้นมาผมไม่รู้ว่าบริษัท Facebook ค้นมาสร้างอัธยาศัยให้ผมถูกน้าทำร้ายทำไม บักศาสดาคุก​

อนาคตและศักดิ์ศรีมึงกับกูต่อไปนี้ หมดบุญวาสนาต่อกันขอให้พ่อแม่มึงก่อกรรมทำเข็ญไว้เมื่อหลายปีที่แล้วกับราชการเมืองขอนแก่นขอให้มึงและครอบครัวมึงจงเจริญ






  1. วันที่ 18 กรกฏาคม 2560 เวลา 09.00 น. นางสุจิตรา พินดวง พมจ.ขอนแก่น มอบหมายให้ ❌นายพลากร บุตรวงษ์ นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ และนางอัญชลี สาโสภา พนักงานธุรการ ร่วมกับ จนท.องค์การบริหารส่วนตำบล และ อพม. ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านสอบข้อเท็จจริง กรณี เด็กอาศัยอยู่ในครอบครัวยากจน ณ ต.ภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน, ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ และ ต.บ้านผือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ทั้งหมด 5 ครอบครัว สนง.พมจ.ขอนแก่น              ได้ให้คำปรึกษา แนะนำ สวัสดิการต่างๆ และจะนำข้อมูลครอบครัวเด็กที่ประสบปัญหาทั้งหมดเสนอต่อคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่ออนุมัติการช่วยเหลือ ต่อไป




วันที่ 18 กรกฎาคม 2560 นางสุจิตรา พินดวง พมจ.ขอนแก่น มอบหมายให้ ❌⭐นางสมสง่า ทะสา นักพัฒนาสังคมชำนาญการ นายพุทธา ศรีคุณ นักพัฒนาสังคม นายสุวัฒน์ ช่างจักร พขร. ร่วมออกตรวจ ติดตาม รายงานผลการประเมินผล การฝึกอาชีพนวดแผนไทยให้คนตาบอด ภายใต้โครงการสร้างงาน สร้างรายได้ ฝึกอาชีพให้กับคนพิการและผู้ดูแลคนพิการในชนบท ณ ร้านคุณเก๋นวดแผนไทย บ้านคำไฮ ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์



สาระสำคัญ​  คนไม่ใช้หนี้จนถูกจับว่างั้น










คลังบทความของบล็อก

คลิก ติดตามข่าวสาร