รอคนที่สู้ชีวิตให้อยู่ต่อไป





มื่อเราทั้งหลายหวนรำรึกถึงเหตุการณ์ได้ที่ผ่านมา ท่านได้รักเเละเรียกร้องยัดยืน สิทธิเสรีภาพเเละความเป็นธรรมเพื่อปวงชน




ร้อยป่าสยามนิมิต ร้อยป่าสยามนิมิต

วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562

ตำรวจรังเเกห้ามเเจ้งความูกเเก็งวินัยหมู่บ้านหลอกวางยาเเล้วทำร้ายหลังเหตุการณ์ 3ปีที่เเล้ว ป้าผมมะลิวรรณ ที่ขอนแก่น ตายรักษามาตราฐานเรียน รับปริญญา 5 กันยายน ก่อตั้งมหาวิทยาลัย เพราะครูบ้านนอก รร.บ้านหนองเดิ่น รร.บ้านหนองซอน รร.บ้านหนองฯลฯ ร้อเรียนเอาหน้ามั่วสุม5ปีเต็ม คำพูดผมได้ยินที่ตึกผู้ป่วย คาดว่า ตำรวจบ้านโจด กับ ผญบ.(อำเภอภาค2 คือเมืองขอนแก่น18km จากบ้านที่อ.เชียงยืน )



เพลง นกจาก ไทยเดิมขับร้องดนตรีประกอบตะวันตก


ปีที่แล้ว ใครอ่านหนังสือไม่จบเล่ม หรือแทบไม่ได้อ่านหนังสือเลยบ้าง?
ผลการสำรวจในช่วงปีที่ผ่านมาบอกว่า ผู้ใหญ่กว่า 26 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐอเมริกาไม่ได้อ่านหนังสือเลย ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยจาก Pew Research Center
ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนี้ เราจะขอยกข้อดีของ “การอ่าน” ที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นจริง เผื่อว่าในปี 2019 นี้จะได้เริ่มต้นใหม่และลองหยิบหนังสือสักเล่มสองเล่มมาอ่านให้จบ
1. การอ่าน “นวนิยาย” ช่วยเปิดมุมมองทางความคิดของคุณและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
ตามการวิจัยของมหาวิทยาลัยโตรอนโต ผู้เข้าร่วมการทดลองที่มีประสบการณ์ในการอ่านเรื่องสั้นจะมีทัศนคติที่ “ต้องการคำตอบตายตัว/ปลายปิด” น้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมการทดลองที่อ่านบทความหรือสารคดี โดยพื้นฐานคือคนที่มีประสบการณ์ด้านการอ่านนวนิยาย/เรื่องสั้นจะมีความคิดที่เปิดกว้างกว่า และแม้การอ่านบทความหรือสารคดีจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาวิชาที่เกี่ยวข้องมากขึ้น แต่อาจไม่ได้ช่วยให้พวกเขาคิดต่อยอดได้เสมอไป เหมือนแพทย์ที่มีเอนไซโคลปีเดียที่รวบรวมเนื้อหาในวิชาชีพไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคู่มือนั้นจะช่วยให้แพทย์ระบุสาเหตุของโรคได้เมื่ออาการแวดล้อมของโรคบ่งชี้ไปทางอื่น
2. คนที่อ่านหนังสือมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่อ่าน
ข้อนี้สอดคล้องกับการวิจัยของมหาวิทยาลัย Yale ที่มีผู้เข้าร่วมทดสอบ 3,635 คนที่มีอายุ 50 ปี และพบว่าผู้ที่อ่านหนังสือวันละ 30 นาทีจะมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่อ่านหรืออ่านเฉพาะนิตยสารประมาณ 23 เดือน ทั้งนี้เพราะการอ่านหนังสือจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงในด้านการรับรู้หลายด้านทั้งเรื่องคำศัพท์ ทักษะการคิดวิเคราะห์ และการตั้งสมาธิจดจ่อ นอกจากนี้ยังมีผลต่อการพัฒนาความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ การรับรู้และเข้าใจการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยทางอ้อมที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ยืนยาวขึ้น
3. การอ่านหนังสือ 50 เล่มต่อปีเป็นสิ่งที่คุณทำได้จริง และส่งผลดีต่อการนอนหลับ
ถ้าบอกว่าจะอ่านหนึ่งเล่มต่อสัปดาห์อาจฟังดูมากไป โดยเฉพาะกับคนที่ตารางชีวิตไม่ค่อยว่าง แต่มีตัวอย่างของคนที่พยายามกำหนดเป้าหมาย 50 เล่มต่อปีด้วยการ “แบ่งเวลาที่เสียไปกับสมาร์ตโฟน” มาพลิกหน้ากระดาษอยู่บนเตียง ระหว่างการเดินทาง หรือระหว่างรอคอยอะไรบางอย่าง สองเดือนถัดจากนั้น ผู้ที่ทดลองอ่านหนังสือยามว่างแทนการเล่นสมาร์ตโฟนเปิดเผยว่า พวกเขารู้สึกสงบมากขึ้น มีความพึงพอใจในชีวิต และนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ผู้ที่จะพบความสำเร็จทุกคนเป็นนักอ่าน
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคุณสมบัติข้อหนึ่งของผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคือการเป็นคนที่ใฝ่รู้และใส่ใจการพัฒนาตนเอง มีนักบริหารหรือคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนไหนบ้างที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือเเล้วคุณจะรออะไรล่ะ? ลองเริ่มต้นวันนี้ก็ยังไม่สายนะ!
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
- Inc. “Why Reading Books Should Be Your Priority, According

ปล.กรุณาด้วยจิตท่องเฟสบุค  จากนโยบายประชานิยมของบริษัทอินเตอร์เน็ตไทยแลนด์ที่ลงทุนร่วมกันระหว่าง TOT กับ Cat Telecomทำให้เราเดือดร้อนท้อง Facebook ตัวเองมาจากกรุงเทพฯ
  ส่วนใหญ่ครูโรงเรียนพวกนี้ดูอินเตอร์เน็ตอ้างว่าสอนเด็กนักเรียนผมเคยดูไอทีวีวันนั้นของคุณทักษิณชินวัตรสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีเคยบอกว่าในประเทศบราซิลนักเรียนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรัฐรีโอเดจาเนโรเป็นคนขอทานไม่ไปโรงเรียนรัฐบาลจึงมีนโยบายให้นักเรียนเรียนหนังสืออยู่บ้านโดยแจกแท็บเล็ตไว้ที่บ้านเนื่องจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเดิมหรือละเพื่อไทยเดิมก็เป็นพรรคการเมืองที่เกิดจากนายทุนด้านการสื่อสารดังนั้นวิธีการแจกแท็บเล็ตก็คล้ายกันกับโรงเรียนในประเทศอเมริกาใต้


วันนี้​ 27  ม.ค​ 62  หลังการตายไป5เดือน

เฟลบุค  อภิรักษ์​ สภาโจ้ค  ก็​เชื่อมาตามนั้นนะ

เหตุที่ตายเเละยังขอดูงานเวรเบียร  รพศ.ขก​ ตึก2 ป่วยหญิง​ งานศัลยกรรม2 หัวใจ​ หลอดเลือด​
  เพื่อนคุณอภิรักษ์บอกดังนี้นะครั​บ

  ##เส้นเลือดสมอง

 จะตีบหรือแตก
มักจะเกิดบริเวณ..นี้

นอนๆอยู่
เส้นเลือดในสมองแตก,ลูกๆไม่รู้วิธีปฐมพยาบาลทำให้ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นวิกฤติจึงอยากแชร์....

วิธีการ ‘ปล่อยเลือด’ ช่วยชีวิตจาก ‘โรคหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน’
(ท่านผู้ที่ดูแลพ่อแม่ควรรู้ไว้) จำให้แม่น ๆ เอาไว้ช่วยชีวิตคนได้ประโยช

แพทย์อาวุโสแผนโบราณของไต้หวัน ได้ถ่ายทอดวิธีการช่วยชีวิตจาก โรคหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน ซึ่งลูกกตัญญูหลายท่านเสียใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้..
เมื่อเส้นเลือดฝอยที่อยู่ในสมองแตก เลือดจะไหลซึมออกมาอย่างช้า ๆ เมื่อพบกับสถานการณ์อย่างนี้ ขอให้ตั้งสติ ไม่ว่าช่วงจังหวะที่เกิดเหตุนั้นอยู่ ณ ที่ใด (ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน หรือ ห้องนั่งเล่น) ขออย่าได้มีการเคลื่อนย้าย ผู้ป่วยเป็นอันขาด เพราะถ้ามีการเคลื่อนย้าย จะเป็นตัวช่วยเร่งรอยแตกของเส้นเลือดฝอยให้มากขึ้น
สิ่งแรกที่ควรทำคือ ประคองผู้ป่วยให้เอนนั่งตัวตรงมั่นคงก่อน ระวังอย่าให้ล้มเอนลงอีก
เคล็ดลับการปฐมพยาบาล (ปล่อยเลือด)..
ถ้าหากในบ้านมีเข็มฉีดยาอยู่ จะเป็นการดีที่สุด หากไม่มี ใช้เข็มเย็บผ้าก็ได้ แทงเข้าไปที่ปลายนิ้วมือ ทั้ง 10 ของผู้ป่วย

(ไม่กำหนดจุดที่แน่นอน แค่ให้ห่างจากปลายเล็บนิ้วพอประมาณ)
แทงให้มีเลือดไหลออกมา

(ถ้าเลือดไม่ไหลออกมา ให้ใช้มือช่วยบีบได้) นิ้วละ 1 หยด ประมาณไม่กี่นาทีต่อมา ผู้ป่วยจะฟื้นตื่นขึ้นมา
ถ้ามีอาการปากเบี้ยว ให้ดึงหูทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วยจนหูแดง ให้แทงที่ด้านล่างของใบหูทั้งสองข้าง ๆ ละ 2 ครั้ง (ติ่งหู) จนมีเลือดไหลออกมา เพียงไม่กี่นาทีปากก็จะกลับฟื้นคืนสภาพเดิมได้

และให้รอจนกระทั่งผู้ป่วยฟื้นคืนสภาพกลับมาเป็นปกติ โดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติแล้ว จึงค่อยนำส่งต่อไปหาแพทย์
ถ้าหากรีบร้อนอุ้มขี้นรถพยาบาลไปหาแพทย์ทันที เกรงว่าในระหว่างทางจะเกิดอาการช็อคขึ้นมาก่อนไปถึงโรงพยาบาล เส้นเลือดฝอยในสมองของเขาอาจแตกเพิ่มจนเกือบหมด ในกรณีที่โชคดีไม่ถึงตาย ก็อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ หรือ อัมพาตก็ได้

ถ้าหากว่า พวกเราสามารถจดจำวิธีการนี้ จะสามารถช่วยเหลือได้ทันที ในช่วงระยะเวลาที่สั้น ๆ นี้ สามารถทำให้ฟื้นคืนจากความตายได้ อีกทั้งยังช่วยให้รักษาที่โรงพยาบาลหลังจากนั้น จะมีความสมบูรณ์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
หากคิดว่าเป็นประโยชน์ให้ช่วยส่งต่อ คุณพ่อแม่ของพวกเราอยู่ในวัยสุ่มเสี่ยง อาจได้ใช้ประโยชน์นะครับ

CR:อ.มาศ ซินแสไฮเทค
ถ้าเห็นว่าพอจะมีประโยชน์บ้างก้อช่วยแชร์ออกไปเยอะๆน่ะคับ
Cr:Relax House Health & Beauty

https://www.facebook.com/100002530625084/posts/2190733777687622/เส้นเลือดสมอง จะตีบหรือแตก
มักจะเกิดบริเวณ..นี้

ปล.(ผู้เขียน)​ผมเชื่อว่า​ สารพิษ​ เเละ​ พิษวิทยาจากยากระตุ้นหัวใจ​ ที่เเพทย์พยาบาลทำกับาผม​ มันร้อนทั้งตัว​ คนสมัยนี้นิยมวางยาเป้า​ นปช.เเละกบฏ​Tv /WiFi ฟรี/Facebook​ ผมนึกถึง​ท่านชาย​ ใน​ USA

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก

คลิก ติดตามข่าวสาร